เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปแล้วว่า สังคมไทยในปัจจุบันได้เข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุ
หรือเป็นสังคมที่มีสัดส่วนประชากร ของผู้สูงอายุสูงขึ้น เมื่อคนมีอายุมากขึ้นย่อมไม่สามารถ
หลีกเลี่ยงภาวะชราภาพ (aging) ได้ แม้ว่าเราจะสามารถชะลอได้ด้วยการออกกำลังกาย
ควบคุมหรือเลือกอาหาร การกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามิน หรือ ยาบำรุงบางชนิด
ภาวะชราภาพนั่ง รถเข็นผู้ป่วย ในการเดินทางเคลื่อนไหว ก็ต้องเกิดขึ้นอย่างเหลีกเลี่ยงไม่ได้
เมื่อมีอายุมากขึ้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายภายในอย่างหนึ่ง คือความเปราะบาง
ของกระดูก หรือการมีภาวะกระดูกพรุน ร่างกายที่มีกระดูกบางหรือกระดูกพรุน จะเกิดการ
แตกหักถึงขั้นต้องนั่ง รถเข็นผู้สูงอายุ ได้ง่ายกว่าคนในวัยหนุ่มสาว รวมถึงเมื่อหักแล้วก็หาย หรือ กลับมาเหมือนเดิม
ได้ยากกว่า สามเหตุสำคัญประการหนึ่ง ที่ทำให้ผู้สูงอายุเกิดการแตกหักของกระดูกคือ หกล้ม หรือ การเกิดอุบัติเหตุ ในผู้สูงอายุที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกควรมีตัวช่วยเช่น รถเข็นคนชรา หรือ รถเข็นช่วยพยุงเดิน เพื่อป้องกันการหกล้ม
จากการวิจัยของกระทรวงสาธารณะสุขในปี พ.ศ.2552 ได้จัดสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุไว้ดังนี้
1.ผู้สูงอายุชายหกล้มนอกบ้าน 60%
2.ผู้สูงอายุหญิงหกล้มภายในบ้าน 55%
3.พื้นลื่น 42%
4.สะดุดสิ่งกีดขวาง 35%
5.พื้นต่างระดับ 24%
6.ตกบันได 4%
จากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การเสียชีวิตที่เกิดจากการบาดเจ็บในผู้สูงอายุ
ที่มีอายุเกินกว่า 75 ปีขึ้นไปพบว่า ร้อยละ 70 มีสาเหตุจากการหกล้ม และพบว่า ร้อยละ 90 ของปัญหา
กระดูกสะโพกหักในรายผู้สูงอายุที่มีอายุมากเกิน 70 ปี ขึ้นไปเป็นผลจากการหกล้มเช่นกัน ดังนั้นการหกล้ม
ในผู้สูงอายุจึงเป็นปัญหาทางสุขภาพ ที่มีความสำคัญที่ต้องมีมาตรการป้องกันอย่างชัดเจน
แม้แต่ภายในบ้าน ที่หลายคนคิดว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดก็เป็นสิ่งที่มองข้างไม่ได้
จากการวิจัยของกระทรวงสาธารณะสุขในปี พ.ศ.2552 พบว่าผู้สูงอายุชายหกล้มนอกบ้าน
มากถึงร้อยละ 60 ในณะที่ผู้สูงอายุหญิงมักหกล้มภายในบ้านร้อยละ 55 สาเหตุของการ
หกล้มภายในบ้านจากมากไปหาน้อย คือ พื้นลื่น สะดุดสิ่งกีดขวางเวลาเดิน เดินบนพื้น
ต่างระดับโดยขาดความระวังและสุดท้าย คือ การตกบันได